การจัดแสดงได้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนแรกแสดงพันธุ์สัตว์น้ำมีชีวิต ได้แก่ สัตว์น้ำในแนวปะการัง มีปลาการ์ตูน ปลาผีเสื้อ ปลาสินสมุทร ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง ปลาไหลมอร์เรย์ ปลาโนรี ม้าน้ำและกุ้งมังกร, ต่อด้วย สัตว์น้ำที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ ปลากะรังเหลืองจุดฟ้า ปลากะรังหน้างอน ปลากะพงทอง หอยหวาน กั้งกระดาน กุ้งทะเล ปูม้าและปูทะเล, สัตว์ทะเลที่เป็นอันตราย ปลาสิงโต ปลากะรังหัวโขนซึ่งมีลักษณะคล้ายปะการังมาก ปลาอุบ ปลาปักเป้า ปลากระเบนจุดฟ้า เม่นทะเลและแมงดาทะเลที่มีการว่ายน้ำและท่านอนที่แปลกคือนอนหงายดูเผินๆ เหมือนว่ามันตายแล้ว, บ่อ Touch Pool ระบบนิเวศวิทยาชายฝั่งและปะการังน้ำตื้น ส่วนนี้จะถูกจัดแสดงไว้ด้านนอกก่อนทางเข้าผ่านประตู มีปลาดาวทะเล ดาวหมอนปักเข็ม ปลิงดำ ปลิงส้มและปลิงหนาม ถูกจัดแสดงไว้ รวมทั้งยังมีบ่อแสดงพันธุ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ บ่อทรงกระบอก บ่อเต่า บ่ออุโมงค์ และบ่อปลากลางแจ้งที่ถูกจัดแสดงไว้อย่างสวยงามในส่วนที่ 2 ได้จัดให้เป็นการแสดงนิทรรศการโครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเลตามพระราช
เสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่จังหวัดปัตตานีและนราธิวาส มีการบอกเล่าเรื่องราวรวมทั้งยังนำเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำประมงมาจัดแสดงไว้อีกด้วยในส่วนสุดท้ายเป็นส่วนพิพิธภัณฑ์เปลือกหอย มีตัวอย่างเปลือกหอยที่เก็บรวบรวมจากน่านน้ำไทยกว่า 140 ชนิด ซึ่งได้จำแนกและบอกรายละเอียดไว้อย่างครบครัน เรียกได้ว่าเป็นการดำน้ำดูใต้ท้องทะเลแบบที่ไม่ต้องเปียกน้ำกันเลย โดยระหว่างทางเดินจะมีการจัดแสดงตู้ปลานานาชนิดไว้ พร้อมป้ายข้อมูลบอกรายละเอียดอย่างชัดเจน เมื่อเดินชมไปเรื่อยๆ ทางจะค่อยๆ ลาดลงไปสู่อุโมงค์ที่เป็นตู้ปลาขนาดใหญ่และจะพบเห็นหมู่ปลามากมายว่ายอยู่เต็มไปหมด รวมทั้งปลาฉลามหูดำดาวเด่นของที่นี่ก็ว่ายรวมอยู่ด้วย เราสามารถเรียนรู้เรื่องราวใต้ท้องทะเล พร้อมความสนุกสนานน่าตื่นตาตื่นใจเรียกได้ว่าเป็นความสนุกแบบมีสาระกันเลยทีเดียว
ที่มา http://travel.sanook.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น